สวัสดีครับ ในช่วงเวลานี้ หลายท่านคงวิตกกังวลกันไม่ใช่น้อย บางคนอาจจะเพิ่งลงทุนใหม่ เข้าไปในธุรกิจ เพราะคิดว่าเราเริ่มเห็นแสงสว่าง อยู่ที่ปลายอุโมงค์ แล้วเหตุการณ์ ก็เปลี่ยนไป เพราะ ตัวเลขผู้ติดเชื่อ พุ่งขึ้น แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในประเทศไทย แล้วเราจะทำอย่างไรดี ?

ไม่ว่าธุรกิจของเรา จะอยู่มา 20 ปี 50 ปีก็ตาม ถึงวันนี้ ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า กำลังซื้อ ย้ายไปอยู่บนโลกออนไลน์ ค่อนข้างมากแล้ว ถ้าธุรกิจของเรา ยังไม่ออนไลน์ เราก็จะถูกคู่แข่งเจ้าอื่น แย่งตลาดไปในทาง ออนไลน์ แน่นอน

ก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤต ผมเคยคุยกับผู้ประกอบการหลายเจ้า ว่าทำไมไม่ทำเว็บไซต์ หรือ เริ่มทำกิจการให้ออนไลน์ 90% ตอบว่า ไม่รู้จะทำไปทำไม เปลืองค่าใช้จ่ายเปล่าๆ ตอนนี้ ก็ให้ Sales วิ่งขายของได้ ของก็ไปวางตามห้างได้ อันนี้เป็นเรื่องจริง เมื่อปีก่อน หลายธุรกิจ ไม่ได้เตรียมตัว สำหรับออนไลน์ไว้เลย

พอมาปีนี้ ห้างปิด ขายไม่ได้ Sales ออกไปขาย ก็ไม่ได้อีก เพราะร้านค้าปิด กำลังซื้อหด แล้วจะทำอย่างไรดี การทำธุรกิจให้ออนไลน์ จึงเป็นภาคบังคับให้ต้องทำ ทุกอย่างไม่มีคำว่า สายเกินไป แต่ไม่ใช่ทุกธุรกิจจะทำออนไลน์ได้ แต่ขอพักเรื่องนี้ไว้ก่อน เดี๋ยวจะพูดต่อไป

เดี๋ยวนี้มีเครื่องมือหลากหลายมากครับ อย่างที่ง่ายที่สุด คือ สร้าง Facebook Page ขึ้นมาก็เอาไว้ขายของ หรือ โต้ตอบกับลูกค้าได้แล้ว ล่าสุด LINE My Shop ก็สร้างร้านค้าบน Line ได้แล้ว หรือ ถ้าเราคิดว่า จะเข้าถึงคนให้มากขึ้น ก็สร้างเว็บไซต์ ขึ้นมา เพื่อใช้ Platform อย่าง Google หรือ Search Engine อื่นๆ ช่วยก็ได้ 

และต้นทุน การสร้างสิ่งเหล่านี้ ก็ไม่ได้มากมาย เหมือนสมัยก่อนแล้ว ทุกคนสามารถสร้างได้ บาง Platform สร้างได้ฟรีด้วยครับ อันนี้ก็จะเป็นช่องทางนึง ที่เราสามารถทำได้ทันที ณ ตอนนี้

เมื่อธุรกิจต่างๆ เข้ามาในโลกออนไลน์ กันมากขึ้น เปรียบได้กับ ไม่ว่าจะเจ้าเล็กเจ้าใหญ่ ทุกคนแข่งกันอยู่ในสนามเดียวกัน เพราะว่า Audience หรือ ลูกค้าเรา ก็คือคนที่ ออนไลน์ด้วยกัน เวลาที่เราประชาสัมพันธ์ หรือ ทำโฆษณา ทุกคนก็ทำด้วยเช่นกัน

ดังนั้น การที่เราจะเข้าถึง และ ค้าขายกับกลุ่มเป้าหมายของเราได้ เราต้องดึงความสนใจของผู้ชมให้ได้ก่อน เพราะ เมื่อผู้ชมเห็นโฆษณา อัตราการเลื่อน Feed ไม่เกิน 2 วินาทีครับ เรียกได้ว่า เป็นศึกสงคราม แห่งการเรียกร้องความสนใจเลย แล้ว ลูกค้าบนโลกออนไลน์ ก็ พร้อมที่จะเปลี่ยนใจได้ทุกเมื่อ ดังนั้น การที่เราเข้ามาทำธุรกิจให้ออนไลน์ ไม่ใช่แค่สร้าง Page สร้างเว็บไซต์ แล้วก็จบ ออนไลน์แล้ว แต่เรายังต้องดูแลมันด้วย เว็บไซต์ หรือ Page ที่ไม่อัพเดท ไม่มีใครอยากดูครับ และ Algorithm หรือ วิธีคิดของระบบต่างๆ ก็ไม่อยากดันด้วย เพราะเขาต้องการความสดใหม่

โลกออนไลน์ ต้องการความน่าสนใจ (ที่จะหยุด Audience ไว้) และความสดใหม่ เพื่อที่จะให้ Audience มาค้นหาเสมอ ดังนั้น ออนไลน์ แล้วต้องดูแลด้วย

ธุรกิจ ที่มีสินค้า ขายเป็นรูปธรรม อย่างสินค้าอุปโภคบริโภค ที่จับต้องได้ ยังนำมาขาย ทำ E-Commerce ได้ในโลกออนไลน์ แต่บางธุรกิจ อย่างธุรกิจ นำเที่ยว ธุรกิจสปา ธุรกิจฟิตเนส ธุรกิจเหล่านี้ จริงๆ มีอย่างอื่นอีกเยอะ ที่เขารับลูกค้าจาก ออนไลน์ได้ก็จริง แต่ถ้ามันวิกฤตอยู่ ก็ไม่มีลูกค้าไปใช้บริการ ธุรกิจบริการเหล่านี้อยู่ดีครับ แล้วเราจะทำอย่างไรดี ?

ตอนที่ผมเรียนการตลาด จะมีธุรกิจอยู่กลุ่มหนึ่งคือ ธุรกิจที่ไม่ไหว หรือ ไปต่อไม่ได้ ไม่ว่าจะใช้วิธี Promotion ต่างๆ ก็ใช้ไม่ได้ผล แต่มีวิธีหนึ่ง ที่สามารถทำได้คือ การปรับ หรือ การเปลี่ยนธุรกิจ ยังสามารถทำได้ ถ้าธุรกิจนั้นรู้ตัวก่อน และ เริ่มทำมัน

อันนี้ผมลองคิดเป็น idea ครับ อย่างเช่น คนไม่มา Spa เราก็อาจจะออกเป็นคอร์ส spa ที่บ้าน แล้วพ่วงขาย อุปกรณ์ เช่น อโรม่า หรือ เครื่องนวดก็ได้ หรือ ไม่ก็พ่วง Package อาหารคลีนไปเลย เพราะกลุ่มคนที่มา Spa อย่างน้อย ก็ต้องรักสุขภาพบ้างครับ อีกตัวอย่าง ธุรกิจโรงแรม อันนี้ต้องยอมรับว่าโดนหนักมาก เมื่อไม่มีคนมาเที่ยว เปิดให้เป็นที่เช่า สอนพิเศษ หรือ ห้องเรียนเล็กๆ รายวันไปเลยได้ไหม ให้สอนในพื้นที่เปิด หรือ ทำห้องประชุมเล็ก แบบเปิดประตูไว้ตลอดให้สอน เพื่อความปลอดภัย และ โปร่งใส ทำได้ไหม ผมคิดว่า ถ้าธุรกิจลองหา ไอเดียใหม่ๆ แล้วปรับตัว เราก็ยังสามารถอยู่รอดได้ครับ ที่สำคัญ เมื่อปรับเปลี่ยนธุรกิจแล้ว ก็อย่าลืม เอาธุรกิจไปไว้ในช่องทาง Online ด้วยนะครับ

ถ้าท่านไหน มีไอเดียอะไร จะร่วมกันฝ่าวิกฤติ ก็ INBOX ใน Facebook หรือ Comment ใน Youtube มาคุยกันได้เลยนะครับ เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ